Sodium metabisulfite

จัดเป็นสารกันหืน (Antioxidant) และสารกันเสีย (Preservative) ในอาหาร

รายละเอียดสินค้า
  • ช่วยป้องกันการเจริญของจุลินทรีย์ เชื้อรา ยีสต์ และแบคทีเรียที่ทําให้อาหารเสีย ยืดอายุการเก็บรักษา ช่วยป้องกันการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่นของไขมันและรักษาคุณค่าทางโภชนาการ เช่น วิตามินซี
  • ป้องกันการเปลี่ยนสีน้ําตาลของผักผลไม้ ท่าให้สีสวยและสดใสเป็นธรรมชาติ

วิธีการใช้

  • สมกับวัตถุดิบตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียม เช่น แช่ผักผลไม้สดในสารละลาย Sodium metabisulfite
  • ละลายในน้ําหรือสารละลายที่ใช้ในการผลิต เช่น น้ําเชื่อม น้ําส้มสายชู แล้วผสมให้เข้ากันกับอาหาร
  • ฉีดพ่นลงบนผิวหน้าอาหาร เพื่อช่วยรักษาสีสันและป้องกันการปนเปื้อนระหว่างการเก็บรักษา

ใช้ในอาหารประเภทใด

  • ผลไม้แห้ง ผลไม้ดอง ผลไม้แช่อิ่ม เยลลี่ แยม
  • ผักสดที่ต้องการเก็บรักษานาน เช่น มันฝรั่ง หัวหอม กระเทียม
  • ขนมปังกรอบ บิสกิต แครกเกอร์ ซีเรียล
  • เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น ไวน์เบียร์
  • อาหารทะเล เช่น กุ้งแช่แข็ง หอยนางรม ทั้ง ลอบสเตอร์

ปริมาณการใช้ที่ อย. ก่าหนด

  • ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 418 อนุญาตให้ใช้โซเดียมเมตาไบซัลไฟต์ในปริมาณไม่เกิน 500 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม
  • ในบางผลิตภัณฑ์มีข้อกาหนดเฉพาะ เช่น หอมหัวใหญ่และกระเทียมแห้ง ใช้ได้ไม่เกิน 50 มก./กก.
  • ต้องแสดงปริมาณที่ใช้ในส่วนประกอบบนฉลากอาหาร ไม่เกินปริมาณสูงสุดที่กฎหมายกําหนด

คําเตือนการใช้

  • ผู้ที่แพ้ซัลไฟด์รุนแรง เช่น ผู้ป่วยโรคหืดบางราย ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ผสมโซเดียมเมตาไบซัลไฟต์
  • หากแพ้อาจมีอาการผื่นลมพิษ หายใจล่าบาก เจ็บคอ ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ความดันต่ํา
  • ไม่ควรใช้เกินขนาดที่กําหนด เพราะอาจส่งผลให้ปริมาณซัลเฟอร์ไดออกไซด์ในผลิตภัณฑ์สูงเกินไป
  • หากใช้เป็นส่วนผสมต้องระบุค่าเตือน "มีซัลไฟต์" หรือ "กรณีแพ้ อาจมีอาการแพ้รุนแรง" บนฉลาก สรุปว่า Sodium metabisulfite มีประโยชน์มากในการถนอมอาหาร แต่ต้องใช้ในปริมาณที่เหมาะสมและ ระมัดระวังในกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงต่อการแพ้ด้วยนะคะ

 



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy